IV Therapy ย่อมาจาก Intravenous Therapy หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “Vitamin Drip”และ “วิตามินบำบัด” นั้น หมายถึงการให้วิตามินหรือสารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกายซึ่งจะรวดเร็ว ปลอดภัย เห็นผลไว และใช้เวลาในกระบวนการทำไม่นาน การทำ IV Therapy จึงเป็นการให้วิตามินที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
ขั้นตอนการทำ IV Drip
การให้วิตามินด้วยวิธี IV Drip สะดวกและไม่ยุ่งยาก โดยจะมีแพทย์ผู้ชำนาญการทำการตรวจร่างกาย ให้คำปรึกษา และคำแนะนำที่เหมาะสมกับคนไข้ เพื่อเลือกวิตามินที่เหมาะสมเฉพาะแต่ละบุคคล
จากนั้นพยาบาลของคลินิกจะทำการผสมวิตามินตามสูตรด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ เมื่อผสมวิตามินเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการเปิดเส้นที่ข้อพับแขน หรือข้อมือ เพื่อต่อสายน้ำเกลือและปล่อยวิตามินค่อยๆซึมเข้าไปทางหลอดเลือดดำ ลักษณะเหมือนการให้น้ำเกลือในโรงพยาบาล
ซึ่งในระหว่างที่ทำ IV Drip คนไข้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ที่ชอบได้ อาทิ อ่านหนังสือ ท่องโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ในระหว่างที่รับบริการจะมีพยาบาลคอยเข้ามาเช็คความเรียบร้อยตลอดการรับบริการ
เมื่อให้ วิตามินจนหมดเรียบร้อยแล้ว พยาบาลจะมาถอดสายน้ำเกลือออก ก็เป็นอันจบขั้นตอนการทำ IV Drip หลังจากนั้นก็กลับบ้านได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการให้วิตามิน
- อาจเกิดภาวะมึนศีรษะคลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง หรือเหงื่อออก (พบได้น้อย)
- อาจเกิดอาการปวดมวนท้อง เนื่องจากการให้วิตามินบางชนิดได้
- อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อสั่น (muscle shaking) หรือ หนาวสั่น (Chill)
- อาการบวม หรือ มีแผลช้ำ หรือจ้ำเลือด (bruise) หรือมีก้อนเลือดขัง (hematoma) อยู่ตรงบริเวณที่ให้สารน้ำ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น - อาจเกิดภาวะน้ำเกินได้ ในผู้ที่มีปัญหาโรคหัวใจ หรือโรคไต
- อาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดผิดปกติจากการตรวจปลายนิ้ว ในช่วง 1-6 ชั่วโมงหลังการรักษา
- อาจเกิดภาวะเส้นเลือดดำอักเสบได้ (Phlebitis) จากการให้สารน้ำ
สูตรวิตามิน IV Drip